|
คุณ..เสี่ยงต่อเบาหวานหรือไม่ ?
|
หากข้อหนึ่งข้อใดตรงกับคุณ ควรตรวจหาความเสี่ยงเบาหวาน หรือปรึกษาแพทย์
- มีพ่อแม่ พี่น้องสายตรง เป็นเบาหวาน
- สูงอายุ
- น้ำหนักเกิน
- ระดับไขมันในเลือดสูง
- ความดันโลหิตสูง
- เป็นโรคหัวใจและหลอดเลือด
- ระดับไขมันสะสมในร่างกายสูง
เบาหวาน เป็นภาวะของโรคที่เกิดขึ้นจากน้ำตาลในกระแสเลือดมีปริมาณสูงขึ้น ขณะที่เนื้อเยื่อของร่างกายไม่สามารถนำน้ำตาลนั้นไปใช้เป็นพลังงานได้ตามปกติ เมื่อมีอาการของโรคมากขึ้น ในที่สุดน้ำตาลจะล้นออกมาในปัสสาวะทำให้สามารถตรวจพบน้ำตาลในปัสสาวะได้ ภาวะน้ำตาลในเลือดสูงเป็นระยะเวลานานจะทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนต่ออวัยวะต่าง ๆ ได้แทบทุกระบบ เช่น ตา ไต ระบบประสาท ระบบหัวใจและหลอดเลือด เป็นต้น
สาเหตุของโรคเบาหวาน
1. กรรมพันธุ์ 2. ความอ้วน 3. การได้รับยาบางชนิด เช่น เสตียรอยด์ ยาคุมกำเนิด 4. โรคของตับอ่อน เช่น ตับอ่อนอักเสบ 5. การตั้งครรภ์
ประเภทของโรคเบาหวาน
1. เบาหวานประเภทที่ 1 มักเกิดในคนอายุน้อยกว่า 40 ปี รูปร่างผอม สาเหตุเกิดจากตับอ่อนไม่สามารถผลิตอินซูลิน หรือผลิตได้เพียงเล็กน้อย 2. เบาหวานประเภทที่ 2 มักเกิดในคนอายุมากกว่า 40 ปี รูปร่างอ้วน สาเหตุเกิดจากตับอ่อนผลิตอินซูลินได้บ้างแต่ไม่เพียงพอหรือผลิตได้เป็นปกติ แต่มีการตอบสนองต่ออินซูลินลดลง 3. เบาหวานจากสาเหตุอื่น ๆ เช่น โรคตับอ่อน โรคทางพันธุกรรม 4. เบาหวานในหญิงตั้งครรภ์
อาการของผู้ป่วยโรคเบาหวาน ในผู้ป่วยเบาหวาน ระดับน้ำตาลที่สูงจะล้นออกมาในปัสสาวะซึ่งจะดึงน้ำตามมา ทำให้ผู้ป่วยมีการสูญเสียน้ำไปด้วย ผู้ป่วยจึงมีอาการปัสสาวะบ่อยและปัสสาวะมาก ปัสสาวะกลางคืน คอแห้ง กระหายน้ำ ดื่มน้ำมาก หิวบ่อย รับประทานจุ แต่น้ำหนักไม่ขึ้น ทั้งนี้เนื่องจากร่างกายไม่สามารถนำน้ำตาลไปใช้เป็นพลังงานได้ นอกจากนี้ถ้าเป็นแผลจะหายยาก รวมทั้งยังพบอาการที่เกิดจากโรคแทรกซ้อนเรื้อรังของเบาหวานได้แก่ ชาปลายมือปลายเท้า ตามัว
การวินิจฉัยว่าเป็นโรคเบาหวาน วินิจฉัยจากการตรวจระดับกลูโคสในพลาสม่า ดังนี้ 1.ในกรณีมีอาการของโรคเบาหวานชัดเจน ว่าเป็นเบาหวาน เมื่อระดับกลูโคสในพลาสม่ามากกว่า 200 มก./ดล.เพียง 1 ครั้ง 2.ในกรณีที่ไม่มีอาการเลย ระดับพลาสม่ากลูโคสหลังอดอาหารครบ 8 ชั่วโมง ต้องการมากว่า หรือเท่ากับ 126 มก./ดล. 2 ครั้ง
*ระดับกลูโคสระหว่าง 110-125 มก./ดล. ถือว่า ผิดปกติมีความเสี่ยงสูงที่อาจเกิดโรคเบาหวานได้ ควรได้รับการตรวจต่อเนื่องเป็นระยะ
ผู้ที่ควรได้รับการตรวจเบาหวาน 1. ผู้มีอาการของโรคเบาหวาน 2. ผู้ไม่มีอาการ แต่อายุมากกว่า 45 ปี ควรตรวจซ้ำทุก 3 ปี 3. ผู้ไม่มีอาการ แต่เสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวาน 3.1 มีญาติสายตรงเป็นเบาหวาน (พ่อ แม่ พี่น้อง) 3.2 น้ำหนักตัวอยู่ในเกณฑ์อ้วน 3.3 เคยแท้งหรือคลอดบุตรตายตอนคลอด 3.4 คลอดบุตร น้ำหนักแรกคลอดมากกว่า 4 กิโลกรัม 3.5 เคยเป็นเบาหวานขณะตั้งครรภ์ 3.6 หญิงตั้งครรภ์ทุกราย ควรได้รับการตรวจคัดกรองเมื่ออายุระหว่าง 24-28 สัปดาห์
ด้วยความรู้ทางการแพทย์ในปัจจุบัน ผู้ป่วยเบาหวาน สามารถมีชีวิตยืนยาวเป็นปกติสุขได้ ถ้าสามารถควบคุมระดับน้ำตาลให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม
|
|